โรคเท้าช้าง เป็นโรคที่เกิดจากหนอนพยาธิตัวกลมฟิลาเรีย มีลักษณะคล้ายเส้นด้ายอาศัยอยู่ในระบบน้ำเหลืองของคน โดยมียุงเป็นพาหะนำโรค มีอาการที่เห็นได้ชัด คือ ขา แขน หรืออวัยวะเพศบวมโตผิดปกติ เนื่องจากภาวะอุดตันของท่อน้ำเหลือง
โรคเท้าช้าง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบน้ำเหลืองที่มีหน้าที่ปรับสมดุลของเหลวในร่างกายและต่อสู้กับเชื้อโรค ทำให้มีอาการปวดบวมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย และอาจส่งผลรุนแรงถึงขั้นพิการถาวรได้ โรคนี้สามารถแพร่กระจายโดยมียุงเป็นพาหะ ซึ่งหากยุงกัดผู้ที่มีเชื้อนี้แล้วไปกัดผู้อื่น ก็จะทำให้ติดเชื้อได้
อาการของโรคเท้าช้าง
– การติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ ผู้ป่วยโรคเท้าช้างส่วนใหญ่มักไม่มีอาการของโรคปรากฏโดยอาจพบการปนเปื้อนของเชื้อจากการตรวจเลือดด้วยการใช้กล้องจุลทรรศน์ส่อง ซึ่งแม้ไม่มีอาการใด ๆ ให้เห็น แต่การติดเชื้อชนิดนี้ก็จะส่งผลเสียหายต่อระบบน้ำเหลืองและไต ตลอดจนเกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบภูมิคุ้มกันที่ไม่อาจกลับคืนสู่สภาพเดิมได้หากไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษา
– การติดเชื้อเฉียบพลัน สาเหตุมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง เมื่อร่างกายบางส่วนสูญเสียการป้องกันเชื้อโรคเนื่องจากระบบน้ำเหลืองเสียหาย การติดเชื้อเฉียบพลันแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. การติดเชื้อเฉียบพลันชนิด Acute Adeno-Lymphangitis: ADL พบได้บ่อยกว่าการติดเชื้อแบบ AFL อาจสังเกตว่ามีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโตจนเจ็บบริเวณขาหนีบและใต้วงแขน มีอาการเจ็บ ฟกช้ำ แดง บวมบริเวณที่ได้รับผลกระทบ และมักเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียทับซ้อน โดยการติดเชื้อลักษณะนี้ใน 1 ปีจะเกิดขึ้นได้หลายครั้ง โดยเฉพาะในฤดูฝนที่มีความชื้นมากขึ้นบริเวณง่ามนิ้วเท้า นำไปสู่การติดเชื้อราที่จะทำให้ผิวหนังเกิดความเสียหายและเปิดโอกาสให้พยาธิชอนเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย
2. การติดเชื้อชนิดเฉียบพลันชนิด Acute Filarial Lymphangitis: AFL พบได้ไม่บ่อยนัก สาเหตุเกิดจากพยาธิที่โตเต็มวัยแล้วและกำลังจะตาย ไม่ว่าจะตายเองโดยธรรมชาติหรือตายเพราะผู้ป่วยได้รับการรักษาก็ตาม มีอาการแสดงเป็นตุ่มก้อนเจ็บขนาดเล็กขึ้นบริเวณที่พยาธิตาย หรือขึ้นตามท่อน้ำเหลืองหรือบริเวณอัณฑะด้วยก็ได้ รวมทั้งอาจส่งผลให้ระบบน้ำเหลืองฟกช้ำและโตขึ้น แต่การติดเชื้อแบบเฉียบพลันชนิดนี้จะไม่มีไข้หรือการติดเชื้อทุติยภูมิปรากฏ
สาเหตุของโรคเท้าช้าง
โรคเท้าช้าง เกิดจากเชื้อที่เป็นสาเหตุคือพยาธิตัวกลม โดยชนิดที่พบได้บ่อยคือ Wuchereria Bancrofti และ Brugia Malayi ซึ่งอาศัยอยู่ในคนเท่านั้น พยาธิเหล่านี้สามารถแพร่กระจายจากคนไปสู่คนโดยมียุงเป็นพาหะนำโรค เมื่อยุงกัดผู้ป่วยโรคนี้ พยาธิสาเหตุโรคเท้าช้างที่มีขนาดเล็กจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าที่อยู่ในเลือดของผู้ติดเชื้อจะเข้าสู่ยุงจนทำให้ติดเชื้อ
การป้องกันโรคเท้าช้าง
– ทำลายยุงและแหล่งลูกน้ำ
– ป้องกันไม่ให้ยุงกัน มุ้ง ยาทากันยุง
– ให้รีบรักษาผู้ที่เป็นโรคนี
การวินิจฉัยโรคเท้าช้าง
– การตรวจปริมาณสารแอนติบอดีในเลือด เป็นวิธีการตรวจดูปฏิกิริยาจากสารก่อภูมิแพ้ที่เกิดจากพยาธิโดยใช้เครื่องมือทดสอบเลือด และถือเป็นทางเลือกสำหรับการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยที่มีต่อมน้ำเหลืองบวม ภาวะที่อาจใช้เวลาหลายปีหลังจากการติดเชื้อกว่าจะแสดงให้เห็นและการตรวจทางห้องปฏิบัติมักตรวจไม่พบเชื้อในผู้ป่วย นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการติดตามผลการรักษาได้ด้วย
– การตรวจปัสสาวะ หากสงสัยว่าผู้ป่วยอาจติดเชื้อโรคเท้าช้าง แพทย์อาจส่งตรวจปัสสาวะของผู้ป่วยเพื่อตรวจดูความขุ่นคล้ายน้ำนมของปัสสาวะ ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการที่ท่อน้ำเหลืองถูกปิดกั้น และตรวจหาพยาธิต้นเหตุของโรคเท้าช้างในปัสสาวะ
– การถ่ายภาพ เป็นวิธีวินิจฉัยโดยการใช้เครื่องอัลตราซาวด์ตรวจดูการอุดตันของท่อน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบและถุงอัณฑะ
การรักษาโรคเท้าช้าง
ทำความสะอาดส่วนที่มีอาการบวมอย่างระมัดระวังด้วยสบู่และล้างด้วยน้ำสะอาดทุกวัน
พยายามป้องกันการติดเชื้อในบริเวณที่เกิดแผลให้ดี อาจใช้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราได้หากจำเป็น
เพิ่มการออกกำลังกายในแขนหรือขาที่บวม เพื่อให้น้ำเหลืองในร่างกายได้มีการเคลื่อนไหวและเพิ่มการไหลเวียนให้มากขึ้น
ที่มา
ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ otvorenidirektorijum.com